ไม่มีสินค้าในตระกร้าสินค้า!
ช่วงนี้มีข่าวแว่วจากกรมอุตุฯมาว่า..ประเทศไทยมีโอกาสเสี่ยงอุณหภูมิร้อนหนักถึง 44 องศา! ซึ่งอากาศที่ร้อนสูงขนาดนี้มีความเสี่ยงต่อผิวหน้า โดยเฉพาะปัญหาผิวหน้าอย่าง “รอยฝ้า” เราจึงควรตื่นตัวและเริ่มป้องกันผิวหน้าจากรอยฝ้าตั้งแต่ตอนนี้!
8 วิธีรักษาฝ้าในช่วงที่อากาศร้อนโหดร้าย!
วิธีรักษาฝ้า 1 : ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด
ห้ามลืมทาครีมกันแดดเป็นอันขาด! เนื่องจากแสงแดดจะปล่อยคลื่นรังสี UVA/UVB ออกมามากที่สุดในช่วงอากาศร้อนแบบนี้! เราจึงควรเลือกทาครีมกันแดดที่มี SPF50 PA+++ ก่อนออกจากบ้าน 30 นาที และทาซ้ำเมื่ออยู่กลางแจ้งทุกๆ 2 ชั่วโมง และควรเลี่ยงแสงแดดเวลา 10.00-16.00 น. เพื่อช่วยป้องกันผิวหน้าจากแสงแดดและรอยฝ้าได้
(ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 3 ลิตร เพื่อช่วยลดรอยฝ้า และผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่งมากขึ้น)
วิธีรักษาฝ้า 2 : ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ
การดื่มน้ำ นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย โดยการดื่มได้ให้ได้วันละ 3 ลิตร (ด้วยการค่อยๆจิบน้ำทั้งวัน) มีส่วนช่วยสำคัญในการขับถ่ายสารพิษภายในร่างกายทั้งทางรูปแบบเหงื่อ, ปัสสาวะ หรืออุจจาระ ทำให้ระบบภายในร่างกายดีขึ้น ส่งผลดีถึงผิวพรรณโดยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ผิว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย และช่วยลดเลือนหรือรักษารอยฝ้าได้อย่างดี
วิธีรักษาฝ้า 3 : บำรุงผิวให้แข็งแรงด้วยอาหาร
การบำรุงผิวด้วยอาหาร คือการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวพรรณ โดยเลือกทานอาหารที่ไร้น้ำมัน น้ำตาล ผงชูรส หรือสี-กลิ่นตกแต่งอาหาร โดยอาหารที่ดีที่ควรทานก็คือ ผัก ผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ บี1,2,3 ซี อี และแร่ธาตุต่างๆมากมาย รวมถึง นม ไข่แดง โยเกิร์ต เนื้อปลาทะเล และธัญพืช ซึ่งมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซ่อมแซมผิวให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ช่วยป้องกันและรักษาฝ้า
วิธีรักษาฝ้า 4 : อย่าลืมทำความสะอาดใบหน้าให้ถูกเวลา
การทำความที่ถูกต้อง คือการทำความสะอาดใบหน้าเพียงแค่วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เท่านั้น! การทำความสะอาดผิวจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขน แถมยังช่วยขจัดสารพิษบนใบหน้าที่มาจากมลภาวะ ฝุ่น ควัน และสารเคมีจากเครื่องสำอางได้ดี หากลืมทำความสะอาดใบหน้าก่อนนอน สิ่งสกปรกหรือสารเคมีเหล่านี้ก็จะส่งผลให้เกิดรอยฝ้าสะสมและเข้มขึ้น
(การนอนหลับผักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมเซลล์ผิวขณะหลับได้ดีมากขึ้น)
วิธีรักษาฝ้า 5 : หลับผักผ่อนให้เพียงพอ
โดยการนอนพักผ่อนให้ตรงเวลา และนอนให้เต็มอิ่ม 6-8 ชั่วโมง เพราะช่วงเวลาที่เรานอนหลับนั้น เป็นช่วงเวลาที่ผิวทำการซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมโทรม จึงช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง พร้อมลดการเกิดฝ้าสะสมได้ ดังนั้นหากเที่ยวเพลินจนนอนน้อย หรือไม่มีโอกาสพักผ่อนบ้าง ผิวหน้าเราก็จะแห้งกร้านไม่สดใส
วิธีรักษาฝ้า 6 : หยุดทำร้ายผิวหน้า
ในช่วงอากาศร้อนๆแบบนี้สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงรองจากแสงแดดก็คือ.. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์, คาเฟอีน, การสูบบุหรี่ และความเครียด เพราะสิ่งเหล่านี้จะบั่นทอนและทำร้ายผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพไวขึ้น เกิดริ้วรอย แห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำง่าย และเกิดฝ้าได้ง่ายที่สุด
วิธีรักษาฝ้า 7 : บำรุงผิวด้วยครีมสมุนไพรรักษาฝ้า
เลือกใช้ครีมที่มีสารสกัดจากสมุนไพรเชื่อถือได้ มี อย. มีแหล่งที่มาที่ไปชัดเจน เพื่อจะช่วยให้คุณได้รับสารบำรุงผิวรักษาฝ้าอย่างอ่อนโยนและไม่ทำร้ายผิว โดยสารสกัดจากสมุนไพรรักษาฝ้ามันมีส่วนผสมของ หัวไชเท้า, รากปอสา และแก่นมะหาดร่วมอยู่ด้วย เพื่อช่วยรักษาฝ้าให้จางลงได้อย่างดี
(การป้องกันผิวหน้าจากแสงแดด ก็จะเป็นวิธีการลดและยับยั้งรอย้าได้ดี)
วิธีรักษาฝ้า 8 : อุปกรณ์ป้องกันแสงแดดร้อนระอุ
ควรพกแว่นกันแดด หมวกหรือร่มติดตัวไว้ จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้มากทีเดียว นอกจากนี้สวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด แต่ต้องเลือกให้เหมาะกับฤดูร้อน เช่น เสื้อผ้าที่ทอจากเส้นใยธรรมชาติซึ่งจะสวมใส่สบาย ระบายเหงื่อและความร้อนได้ดี
เพียง 8 วิธีรักษาฝ้าเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณผ่านพ้นความร้อนถึง 44 องศาได้อย่างปลอดภัย แถมยังช่วยให้ผิวหน้าดีขึ้นไม่เป็นฝ้าเข้มขึ้นอีกด้วย อ้อ! แล้วอย่าลืมดูแลผิวหน้าด้วยสมุนไพรรักษาฝ้า Herb&Her ด้วยนะคะ
