“หยุดเสี่ยง!! หน้าเกิดฝ้าเข้ม..จากครีมทาฝ้าที่แฝงไปด้วยเคมี”

Posted by yim 09/09/2016 0 Comment(s) บทความเกี่ยวกับฝ้า,บทความบำรุงผิวหน้า,

 

 

 

เชื่อว่าหลายคนที่เป็นฝ้า ก็มักจะต้องการหาครีมทาฝ้าที่จะช่วยให้ฝ้าที่ใบหน้าของคุณนั้นจางหายไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ทราบหรือไม่ว่าครีมทาฝ้าที่เห็นผลไว

มักแฝงไปด้วยเคมีอันตราย ที่สามารถทำร้ายผิวหน้าให้เกิดฝ้าเข้มมากกว่าเดิมได้..เมื่อหยุดใช้! 

 

 

 

 

 

 

“ปัญหารอยฝ้า” เกิดจากครีมฝ้าได้อย่างไร?

 

     ครีมแก้ฝ้าที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงตามคำบอกเล่า อย่าง “ครีมแก้ฝ้าหายไว 7 วัน” ครีมเหล่านี้มักมีส่วนผสมจากสารเคมีอันตราย ที่สามารถยับยั้งเมลานินหรือรอยฝ้าให้จางหายได้ในเวลาอันสั้น แต่ผลร้ายที่ตามมาก็ตามมารวดเร็วเช่นกัน

 

     “ครีมฝ้าเถื่อน” มีสารเคมีที่ช่วยยับยังการสร้างเมลานินให้ลดลง แต่สารเคมีเหล่านี้ต้องใช้ปริมาณตามที่แพทย์กำหนดเท่านั้น! หากสารนี้อยู่ในครีมทาฝ้าเถื่อนในปริมาณที่เกินกำหนด แน่นอนฝ้าจางลงจริง แต่เมื่อเวลาผ่านไป หน้าจะบาง ไวต่อแสง รอยฝ้าก็จะลอยชัด และเข้มขึ้นเรื่อยๆ!!

 

 

สารเคมีในครีมฝ้าเถื่อน ทำให้ฝ้าเข้มเมื่อหยุดใช้!

 

สารเคมี 1 : ไฮโดรควิโนน

     เป็นสารที่นิยมใส่มากในครีมที่ทำให้หน้าขาวหรือครีมทาฝ้าเถื่อน ซึ่งสารนี้สามารถออกฤทธิ์โดยการการยับยั้งกระบวนการสร้าง เมลานิน ทำให้หน้าขาว รอยด่างดำ ฝ้า กระ จางหายเร็ว แต่ในปัจจุบันนี้..ไฮโดรควิโนนได้ถูกสั่งห้ามใส่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่วางจำหน่ายทั่วไป  เพราะเป็นสารที่ทำให้เกิดปฏิกิริยากับแสงแดดได้ไวมาก หากหยุดใช้ทันทีจะทำให้ผิวคล้ำลงกว่าเดิม (อย่างไรก็ตาม..ในคลินิกที่จ่ายยารักษาฝ้าโดยแพทย์ ยังสามารถจ่ายให้ผู้ป่วยได้ตามความเหมาะสมตามดุลยพินิจของแพทย์)

 

สารเคมี 2 : ปรอทแอมโมเนีย

     สารชนิดนี้สามารถเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้หน้าขาวได้ภายใน 3-7 วัน พอหยุดใช้หน้าก็กลับมาคล้ำเหมือนเดิม บางรายแพ้มาก เรียกว่าพิษเฉียบพลัน คือ สิวเห่อปะทุทั่วหน้า หน้าบวมแดง บางรายมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเป็นเลือด ถึงขั้นไตวายกันเลยก็มี

 

 

 

 

(หากนำครีมผสมผงซักฟอกแล้วเปลี่ยนสี แสดงว่ามีเคมีอันตราย ห้ามใช้เด็ดขาด!)

 

 

 

 

เทคนิคเลือกครีมแก้ฝ้าแบบปลอดภัย

 

1. สารสกัดจากธรรมชาติ

     เลือกครีมรักษาฝ้าที่มีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ อย่าง รากปอสา, แก่นมะหาด หรือหัวไชเท้า เพราะสมุนไพรเหล่านี้..มีฤทธิ์ในการช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว

 

2. เลือกครีมแก้ฝ้าที่ไม่ให้ผลเร็วเกินไป

     เพราะการใช้ครีมแก้ฝ้าที่เห็นผลเร็ว อาจมาพร้อมกับสารเคมีอันตราย ที่ทำให้หน้าบางลง และเกิดรอยฝ้าชัด เข้ม แก้ไม่หายอีกด้วย

 

3. มี อย. กำกับอย่างชัดเจน

     เทคนิคเลือกครีมที่ปลอดภัยคือการดูเลขที่จดแจ้ง อย. โดยคุณสามารถเช็คเลขได้ตามเว็ปไซต์ http://goo.gl/A05ps6 นี้ได้เลยค่ะ

 

4. ดูฉลาก วัน/เดือน/ปี ที่ผลิต

     ก่อนเลือกซื้ออะไรควรเลือกดูฉลาก ส่วนผสม และ ว/ด/ป ที่ผลิตแจ้งบนผลิตภัณฑ์นั้นๆอย่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในการรักษาฝ้าของคุณเอง

 

 

 

ปัญหารอยฝ้าที่เกิดขึ้นจากเคมีจะหมดไป..เมื่อคุณฉลาดเลือกใช้ครีมรักษาฝ้า และไม่หลงคำโฆษณาชวนเชื่อจากพ่อค้า-แม่ค้า

ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง! แต่ถ้าหากคุณยังไม่รู้จะเลือกใช้ครีมรักษาฝ้าตัวไหนที่ปลอดภัย ไร้สารเคมี 

 

 

เราขอแนะนำ “ครีมรักษาฝ้า Melablock Plus” ปลอดภัยต่อผิวที่คุณรักแน่นอนค่ะ

 

 

 

 

 

จบปัญหาฝ้าด้วย "ชุดรักษาฝ้าบำรุงผิวหน้ากระจ่างใส"

 

 

 

เขียนความคิดเห็น...