สูตรสมุนไพรรักษาฝ้า ให้หน้าเนียนใส

25/06/2015 0 Comment(s) บทความเกี่ยวกับฝ้า,

      สูตรสมุนไพรรักษาฝ้า ให้หน้าเนียนใส 

 

 

 

รอยดำบนใบหน้า หรือ ฝ้า ส่งผลกระทบต่อการดำรรงชีวิตของผู้หญิงเป็นอย่างมาก เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่ Sensitive ต่อสิ่งต่างๆที่รบกวนบนใบหน้าเป็นอย่างมาก และ ฝ้า มักเกิดกับเพศหญิงมากกว่าเพศชายถึง 80% เลยทีเดียว วันนี้เราเลยหาวิธีธรรมชาติที่ช่วยรักษาฝ้ามาฝากสาวๆกันค่ะ

 

 

 

 

 

10 สูตรสมุนไพรรักษาฝ้า ที่คุณก็ทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน

 

 

 

สูตรที่ 1 สมุนไพรรักษาฝ้าด้วย มะนาว

            น้ำมะนาว เป็นสูตรสมุนไพรที่ช่วยในเรื่องลดรอยดำได้เป็นอย่างดี กรดAHA & วิตามินซี ของน้ำมะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าส่วนตรงที่เป็นผิวชั้นนอก และรอยดำจากฝ้า ให้ค่อยจางหายไป รวมถึงช่วยลดความมันบนใบหน้า ลดการเกิดสิวได้ดีอีกด้วย

 

            ขั้นตอน : น้ำมะนาวสด 1 ลูก ค่อยๆถูไปรอบๆ สักประมาณ 1-2 นาที และทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำตามวิธีการรักษาฝ้านี้ วันละ2ครั้ง เป็นเวลา 3 สัปดาห์ รอยฝ้า กระ จุดด่างดำจะค่อยลดเลือน และจางลงได้เป็นอย่างดี

 

 

 

 

 

สูตรที่ 2 สมุนไพรรักษาฝ้าด้วย ข้าวโอ๊ต

            ข้าวโอ๊ต เป็นสมุนไพรรักษาฝ้าที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก เพราะสามารถลบปื้นสีน้ำตาล(ฝ้า)บนใบหน้า รวมถึงรอยกระ จุดด่างดำจากสิว ข้าวโอ๊ตมีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอก พร้อมเผยผิวที่ขาวใส อย่างเป็นธรรมชาติ

 

            ขั้นตอน : ผสมข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะ + นมสด 4 ช้อนโต๊ะ + น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน รอข้าวโอ๊ตบวม นำมาพอกหน้า 20 นาที และถูผสมกับน้ำ ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำเช่นนี้ 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ เป็นเวลาหนึ่งเดือน เห็นผลว่ารอยฝ้าจางลง

 

 

 

 

 

สูตรที่ 3 สมุนไพรรักษาฝ้าด้วย รากปอสา และเปลือกปอสา

             รากปอสา และเปลือกปอสา เป็นสมุนไพรรักษาฝ้าที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase Inhibitor ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่เร่งขบวนการสร้างเม็ดสี Melanin ที่ทำให้ผิวคล้ำเสีย และทำให้ผิวเกิดฝ้า กระ บนใบหน้า หากใครที่ได้ใช้สารสกัดจากรากปอสา รอยฝ้า กระ จุดด่างดำจะจางลงได้เป็นอย่างดี

 

            ขั้นตอน : ใช้สารสกัดจากรากปอสา และเปลือกปอสา ทาบนรอยฝ้า ใช้ได้ทุกวัน เห็นผลภายใน 3 สัปดาห์ รอยฝ้า กระ จะค่อยๆลดเลือนลง ทำให้ผิวหน้าที่มีฝ้า กระ กลับมาขาวใสได้

 

 

 

สูตรที่ 4 สมุนไพรรักษาฝ้าด้วย ขมิ้น

            ขมิ้นชัน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอก พร้อมทั้งสามารถลดการสร้างเม็ดสีผิว(Melanin) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า กระ บนใบหน้า ช่วยสมานแผล ทำให้ผิวเรียบเนียน และฆ่าเชื้อเเบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบได้อีกด้วย  

 

            ขั้นตอน : ผงขมิ้น 5 ช้อนโต๊ะ + นมสด 5 ช้อนโต๊ะ หรือมากกว่านี้ก็ได้ หากขมิ้นยังไม่ข้นพอ การใช้นมสดเพราะมีกรดแลคติกและแคลเซียมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวขาวใส เนียนนุ่ม พอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น ซับหน้าเบาๆให้แห้ง ทำได้ทุกวัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาฝ้าให้จางลง

 

 

 

สูตรที่ 5 สมุนไพรรักษาฝ้าด้วย มะขามเปียก

             มะขามเปียก เป็นสมุนไพรรักษาฝ้าที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และกรด AHA สูงมาก ทำให้ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ดำคล้ำ และลดรอยดำจาก ฝ้า กระ จุดด่างดำให้หลุดลอกได้อย่างดีเยี่ยม สามารถใช้ได้กับจุดแห้งกร้านอย่างตาตุ่ม หัวเข่า ข้อศอก ได้ด้วย

 

            ขั้นตอน : ผสมมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ + นมสด 2 ช้อนโต๊ะ +น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ พอกหน้า 10-15 นาที ล้างออกให้สะอาด ทำได้วัน เว้น วัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ฝ้าจะจางลงเมื่อใช้เป็นประจำถึง 2 เดือน

 

 

 

สูตรที่ 6 สมุนไพรรักษาฝ้าด้วย ว่านหางจระเข้

             ว่านหางจระเข้ มี polysaccharides ที่สามารถบรรเทารอยดำจากฝ้า กระ ได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอก พร้อมทั้งช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนจากแสงแดด เติมน้ำให้แก่ผิวได้ดีขึ้นด้วย

 

             ขั้นตอน : ตัดใบว่านหางจระเข้ที่แก่ที่สุด แช่น้ำ 10 นาที ลอกเปลือกออก ล้างยางให้สะอาด นำวุ้นว่านหางจรเข้มาพอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำตามวิธีการรักษานี้วันละ 2 ครั้ง หรือหากใครไม่มีเวลาขนาดนั้น พอกหน้าแค่อาทิตย์ละ 3 ครั้งก็ได้

 

 

 

 

สูตรที่ 7 สมุนไพรรักษาฝ้าด้วย หัวไชเท้า

            หัวไชเท้า มีสารไกลโคไซด์ (Glycossides) ที่อุดมไปด้วย กรดแอสคอบิก (Ascorbic Acid) และ วิตามินเอ ช่วยลดฝ้า กระ ได้อย่างเห็นผล โดยเข้าไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ร่างกายผลิตออกมามากเกินไป จนกลายเป็น ฝ้า กระ ในหัวไชเท้ายังมีวิตามินอีกมากมาย มีสารที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บนผิวหนัง และ ยังมีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะโดยธรรมชาติ ลดการอักเสบได้ และลดริ้วรอยได้ดีอีกด้วย

 

             ขั้นตอน : นำหัวไชเท้าบด ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย พอกหน้า 15 นาที หรือแต้มตามรอยฝ้า ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ซับผิวหน้าให้เเห้ง ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 3 เดือน รอยฝ้า กระ จะค่อยๆจางลงอย่างเห็นผลชัดเจนเลย

 

 

 

สูตรที่ 8 สมุนไพรรักษาฝ้าด้วย หัวหอมแดง

            หัวหอมแดง มีสารฟลาโวนอยด์ ไกลโคไซด์ เพคตินและลูโคคินิน ซึ่งสารเหล่านี้ มีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรีย ในหัวหอมยังมีน้ำมันหอมระเหยที่ประกอบด้วยสารกำมะถันและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น เหล็ก แคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณสูง ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า ลดรอยดำจากฝ้า กระ จุดด่างดำ และสามารถรักาาสิวได้ด้วย

 

          ขั้นตอน : ฝานหอมแดงเป็นแว่น หรือทุบเอาน้ำมาทาตรงบริเวณฝ้า กระ จุดด่างดำ0ทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวอีกครั้งด้วยน้ำเย็น และเช็ดผิวหน้าด้วยผ้าขนหนูอย่างเบามือ ทำเช่นนี้ วัน เว้น วัน หรือบ่อยตามต้องการ ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน รอยฝ้า กระ จางลงแน่นอน 

 

 

 

สูตรที่ 9 สมุนไพรรักษาฝ้าด้วย มะละกอ

             มะละกอ มีวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ขจัดรอยดำกร้าน ช่วยชลอวัย และที่สำคัญช่วยลดรอยดำจาฝ้า กระ ได้เป็นอย่างดี แถมยังทำให้หน้าเนียนนุ่ม ขาวใสอีกด้วย

 

             ขั้นตอน : ใช้มะละกอสุกบด ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย พอกหน้า 15 - 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวอีกครั้งด้วยน้ำเย็น ซับหน้าด้วยผ้าขนหนูให้แห้ง ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ใช้เวลา 2 เดือน เห็นผลดีมาก

 

 

 

 

 

สูตรที่ 10 สมุนไพรรักษาฝ้าด้วย ใบบัวบก

            ใบบัวบก เป็นสมุนไพรรักษาฝ้าอีกสูตร นักวิจัยพบว่าใบบัวบกนั้นมีสรรพคุณในการช่วยรักษาอาการของโรคผิวหนังได้ โดยเฉพาะฝ้า กระ และสิว มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าได้ดี รอยดำจากฝ้า กระ จึงจางลง และมีส่วนช่วยเติมเต็ม คอลลาเจน ในชั้นผิว ให้ผิวเเข็งแรง ยืดหยุ่น ลดริ้วรอย ทำให้ผิวสุขภาพดีอีกด้วย

 

             ขั้นตอน : นำใบบัวบกมาปั่น แล้วใช้น้ำใบบัวบกมาเช็ดหน้าแทนการใช้โทนเนอร์ก่อนนอนทุกวัน เพียงเท่านี้รอยฝ้าต่างๆก็จะค่อยๆจางลง ทำได้ทุกวันเป็นประจำหลังล้างหน้า เห็นผลลัพธ์ที่ดีภายใน 3 เดือน ฝ้า กระ จางลงมากเลยทีเดียว

 

 

 

 

สูตรสมุนไพรรักษาฝ้าเหล่านี้ จะไม่เกิดผลเลย หากเราไม่รู้จักใส่ใจดูแลตัวเอง ด้วยการดื่มน้ำสะอาด หมั่นออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงการใช้ครีมรักษาฝ้า ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีเลยทีเดียวสำหรับคนที่ไม่มีเวลานำสูตรรักษาฝ้าเหล่านี้มาทำได้เป็นประจำ ครีมรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ (Melablock Plus Cream) ช่วยรักษารอยฝ้า กระ ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

เขียนความคิดเห็น...