เพราะผิวหน้ารอไม่ได้ ! มาป้องกันฝ้าก่อนที่จะสายด้วยวิธีง่ายๆ สบายกระเป๋า

13/09/2015 0 Comment(s) บทความเกี่ยวกับฝ้า,บทความบำรุงผิวหน้า,

เพราะผิวหน้ารอไม่ได้ ! มาป้องกันฝ้าก่อนที่จะสายด้วยวิธีง่ายๆ สบายกระเป๋า

ผิวหน้าของคนเรา มักมีเซลล์ melanocyte ที่ผลิตเมลานินทำให้ผิวคล้ำ หากเมลานินผลิตมากไปก็อาจทำให้เกิดรอยฝ้าบนใบหน้าได้ ดังนั้นเราจึงควรดูแลรักษาผิวหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ เผื่อลดการเกิด “เมลานิน” หรือ “ฝ้า” กันดีกว่า

 

 

เริ่มป้องกันฝ้าด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้..

 

ใช้ครีมสูตร Whitening ที่เชื่อถือได้

 

 

     ครีมบำรุงผิวจะเป็นอาหารเสริมบำรุงผิว ที่ช่วยให้ผิวขาว ชุ่มชื้น แข็งแรงขึ้นได้ จากสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินต่าง ๆ Moisturizer สารอาหารที่ได้จากครีมเหล่านี้ จะช่วยให้ผิวหน้าแข็ง แรงขาวใส ลดการเกิดเมลานิน หรือป้องกันรอยฝ้าบนใบหน้าได้ดี

 

 

     ส่วนครีมรักษาฝ้า จะช่วยป้องกันรอยฝ้าได้อย่างตรงจุด หากคุณเลือกใช้ครีมรักษาฝ้าที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ และไม่มีสารเคมีอันตรายทำร้ายผิวหน้า อย่าง ไฮโดรคิวโนน ก็จะช่วยในการป้องกัน และลดรอยฝ้า กระ ได้เป็นอย่างดี

 

 

 

 

 

ทาครีมกันแดดทุกวัน

 

 

 

     ควรทาครีมกันแดดอย่างน้อยวันละ  2  รอบคือ  เช้า - บ่าย   เนื่องจากครีมกันแดดที่ใช้โดยทั่วไป จะปกป้องผิวหน้าได้เพียง  4-5  ชั่วโมง ต่อการทา 1 ครั้ง ดังนั้น การทาครีมกันแดดตอนเช้าเพียงครั้งเดียว ไม่สามารถป้องกันแดดได้ตลอดวัน  เพราะรังสี UV มักจะแรงในช่วงตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น

 

     ถึงแม้ว่าจะทาครีมกันแดดแล้ว  เวลาออกแดดควรใช้ร่ม หรือหมวกร่วมด้วยเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันรังสี UV 2 ชั้น  เพราะความร้อนอาจทำให้ครีมกันแดดละลาย เป็นการเปิดช่องว่างของใบหน้าต่อแสงแดดได้

 

 

 

 

 

ต้องล้างหน้าก่อนนอนทุกครั้ง

 

 

 

 

     เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์สำหรับใบหน้าใด ๆ ก็ตามมักมีสารเคมี น้ำหอม พาราเบน อยู่ด้วย ทำให้ผิวหน้าเกิดอาการแพ้ หรืออาจทำให้เกิดเมลานินสะสมให้เป็นฝ้าได้ ดังนั้นทางที่ดีในการป้องกันก็คือ ล้างหน้าก่อนนอนทุกครั้ง เพื่อชำระล้างสารเคมีตกค้างบนผิวหน้า นอกจากจะช่วยลดฝ้าได้แล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดสิว ริ้วรอยได้ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

ทานอาหารเสริม

 

 

 

     เพราะบางวันคุณอาจรับสารอาหารไม่เพียงพอ จึงควรทานอาหารเสริมที่มีวิตามินซี วิตามินอี จากธรรมชาติ อย่างเมล็ดองุ่น หรือวิตามินซีแบบเม็ด จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ป้องกันการเกิดรอยฝ้า กระ และลดอาการหมองคล้ำจากแดด หรือแสงสว่างจากหลอดไฟ หรือจอคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ลดความเครียด

 

 

 

 

 

     หมั่นกำจัดความเครียด ด้วยการนั่งสมาธิ ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดความเครียด เพราะความเครียดเป็นก่ออนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดรอยฝ้า และริ้วรอยก่อนวัยได้

 

 

 

 

 

 

 

 

เลือกสมุนไพรรักษาฝ้า

 

 

 

     • ว่านหางจระเข้ ป้องกันฝ้า 

       ว่านหางจระเข้ ช่วยป้องกันการเกิดรอยไหม้จากแสงแดด บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนได้ดี ทำให้ผิวหน้าฟื้นตัวเร็วขึ้น จึงเป็นสมุนไพรที่ดีในการช่วยป้องกัน และลดการเกิดฝ้า นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังช่วยสมานแผลให้เร็วขึ้นได้อีกด้วย

 

 

     ขั้นตอนการใช้ว่านหางจระเข้ป้องกันฝ้า

       ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ที่ล้างยางออกแล้ว ผสมน้ำแตงกวา หรือน้ำผึ้งเล็กน้อย พอกหน้าหลังเจอแสงแดด 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น เท่านี้ผิวหน้าก็รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย พร้อมทั้งยังทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดริ้วรอย ป้องกันฝ้าได้ดี

 

 

 

 

 

 

 

      มะเขือเทศ ป้องกันฝ้า 

       มะเขือเทศจะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก นอกจากนี้มะเขือเทศยังอุดมไปด้วยวิตามิน ซี และวิตามิน เอ รวมไปถึงมะเขือเทศจะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ทำให้สามารถช่วยรักษาสิว ฝ้า รอยดำจากสิวได้ดี

 

 

     ขั้นตอนการใช้มะเขือเทศป้องกันฝ้า

         หั่นมะเขือเทศประมาณครึ่งลูก และสับให้ละเอียด นำไปผสมกับโยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นนำมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวหน้าด้วยน้ำเย็น เท่านี้ผิวหน้าก็จะกระจ่างใส เนียนนุ่ม ลดสิว ป้องกันฝ้าได้

 

 

 

 

 

 

 

     • มะนาว ป้องกันฝ้า 

       มะนาว เป็นสารฟอกผิวจากธรรมชาติ เพราะมีกรดวิตามินซี และ AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าที่หมองคล้ำ เปล่งปลั่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวที่กำลังจะเกิดขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวแข็งแรง พร้อมลดความมัน ลดการเกิดสิว และริ้วรอยได้เป็นอย่างดี

 

 

     ขั้นตอนการใช้มะนาวป้องกันฝ้า

       ผสมมะนาว กับน้ำผึ้งเล็กน้อย นำมาพอกหน้าก่อนนอนทุกวัน วันละ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เท่านี้ผิวหน้าก็จะชุ่มชื้น ลดสิว ลดฝ้า ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส น่าสัมผัส    

 

 

 

พักผ่อนให้เพียงพอ

 

 

 

 

     การนอนหลับ เป็นการฟื้นฟูร่างกาย และผิวพรรณที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันให้ได้พักผ่อน เพียงนอนวันละ 7-8 ชั่วโมง ก็จะช่วยลดการเกิดอนุมูลอิสระ ช่วยให้ระบบภายในปรับตัวทำงานดีขึ้น และยังช่วยให้ผิวได้ระบายเหงื่อ หรือการขับสารพิษ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ลดการเกิดฝ้า กระ ริ้วรอย และสิวได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ

 

 

 

 

     การดื่มน้ำสะอาดมากๆ เป็นการช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ขับของเสียออกจากร่างกายได้ง่ายผ่านทางเหงื่อ และปัสสาวะ ควรจะดื่มน้ำ 10-12 แก้วน้ำอย่างสม่ำเสมอ นอกจากผิวชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยลดริ้วรอย ลดการเกิดสิว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ป้องกันการเกิดฝ้าได้ดี

 

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อคุณปฏิบัติตามขั้นตอนที่เราแนะนำข้างต้นนี้แล้ว คุณสามารถเลือกใช้สมุนไพรในการรักษาฝ้า ด้วย 10 สูตรสมุนไพรรักษาฝ้า ที่เห็นผลจริง และอ่อนโยนต่อผิวหน้ามากที่สุดด้วยได้ค่ะ :D

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เขียนความคิดเห็น...