เทคนิควิธีรักษาฝ้า อย่างปลอดภัย

20/05/2015 0 Comment(s) บทความเกี่ยวกับฝ้า,

เทคนิควิธีรักษาฝ้า อย่างปลอดภัย

 

 

 

                  ปัจจุบันการแก้ปัญหาฝ้า หรือ การรักษาฝ้า มีอยู่หลากหลายวิธีมากมาย อย่างการทำเลเซอร์รักษาฝ้า การทำทรีทเมนท์รักษาฝ้า

รวมถึงครีมทาฝ้า ที่มีคนลองรักษาแล้ว บ้างก็ได้ผล บ้างก็ไม่ได้ผล บ้างก็เป็นหนักยิ่งกว่าเดิม ซึ่งครีมทาฝ้าในปัจจุบัน ที่มีการโฆษณาว่าเห็นผลเร็วภายใน 7 วัน 

ก็ยิ่งทำให้ใครหลายคนคิดว่าครีมที่ใช้ทาฝ้านั้น อาจจะมีสารอันตรายเจือปนไหม? มันเลยทำให้ใครหลายคนมองการรักษาฝ้าเป็นสิ่งที่อันตราย 

 

การรักษาฝ้า แบบปลอดภัย ที่ไม่มุ่งเน้นการทำเลเซอร์ และทรีทเม้นท์

  

 

 

การรักษาฝ้าที่ปลอดภัย ควรเลือกใช้วิธีที่ไม่เป็นอันตรายรุนแรงต่อผิวหน้าก่อน อย่างการใช้ครีมทารักษาฝ้า แต่ครีมรักษาฝ้ามีอยู่ในขณะนี้ ก็มีหลากหลายยี่ห้อ ให้เลือกใช้ และเราจะทราบได้อย่างไรว่า ครีมรักษาฝ้าแบบไหนที่จะไม่มีสารอันตราย และไม่ทำให้หน้าพังพินาศมากกว่าเดิม

 

 

 

 

 

 

 

ครีมที่ใช้รักษาฝ้า ที่มีส่วนผสมของ Hydroquinone สามารถใช้ได้จริงมั้ย ?

 

          Hydroquinone ที่ใครๆก็คิดว่าอันตรายต่อผิวหน้า ทำให้หน้าแพ้ หน้าพัง หน้าดำหนักกว่าเดิม  สิวบุกรุกรามทั่วใบหน้า จะใช้ได้จริงๆเหรอ?

จริงๆแล้วสาร Hydroquinone สามารถใช้ได้ค่ะ แต่ต้องได้รับการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนังเท่านั้นนะคะ

 

 

 

 

 สาร Hydroquinone มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวที่เข้ม หรือ ยับยั้ง เมลานิน นั่นเอง ซึ่งแพทย์แนะนำว่า หากจะใช้สาร Hydroquinone ในการรักษาฝ้า ควรจะมีความเข้มข้นสูงสุดได้แค่ 2 % เท่านั้น !! ซึ่งพอเหมาะต่อสภาพผิว ทำให้ลดอาการระคายเคืองของผิวหนังได้ หากใช้ปริมาณมากกว่านี้ จะไม่ดีต่อผิวหนัง เพราะสาร Hydroquinone มีความไวต่อแสงแดดมาก จะทำให้ผิวไหม้คล้ำ แสบแดง เมื่อกระทบแสงแดด นอกจากสาร Hydroquinone ก็ยังมีสารอื่นๆที่ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานินได้อีก ก็คือ กรดโคจิก, อาร์บูติน, สารสกัดจากชะเอม,  กรด Azelaic, กรด retinoic และ tretinoin เป็นส่วนผสมที่ช่วยลดการสร้างเมลานินได้ แต่ต้องใช้ในปริมาณที่ทางการแพทย์กำหนดเท่านั้น !

 

 

 

 

 

 

 

วิธีอื่นๆ ที่จะช่วยดูแลรักษาฝ้า

 

 

 

ป้องกันแสงแดด - หลายๆคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าฝ้าเกิดจาก รังสี UVA และ UVB ที่มากับแสงแดด ทำให้ เมลานิน ต้องออกมารวมตัวกันเพื่ป้องกันรังสีเหล่านี้ ทำให้เกิดฝ้าขึ้นเป็นปื้นๆบนผิวหน้า ดังนั้นการดูแลรักษาฝ้าก็ต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30ขึ้นไป รวม PA+++ ด้วย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV เหล่านี้ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
 
 
 

อย่าเครียด – ฝ้าสามารเกิดขึ้นได้จากความเครียด ความเครียดจะทำให้ฝ้าเข้มขึ้น เพราะเวลาที่เราเครียดมากๆ อนุมูลอิสระจะก่อตัวในร่างกาย ทำให้ฮอร์โมนกระตุ้นให้เมลานินทำงาน จน เมลาโนไซต์ออกมา ทำให้เกิดฝ้า หรือคนที่เป็นฝ้าอยู่แล้ว ฝ้าก็จะเข้มขึ้นกว่าเดิม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทานวิตามินซี – เมื่อฝ้าเกิด ร่างกายจึงต้องการวิตามินซี เพื่อต่อต้าอนุมูลอิสระ วิตามินซี ที่ต้องใช้ อย่างน้อย 2,000 mg. วิตามินซีมีฤทธิ์ในการทำให้ฝ้าจางลง เราจึงควรทานผักผลไม้จำพวกวิตามินซี แถมวิตามินซี ยังช่วยให้ครีมบำรุงที่เราทาดูดซึมผ่านผิวหนังได้ดี

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เพื่อความมั่นใจ และความปลอดภัยแก่ตัวเราเอง การรักษารักษาฝ้า ด้วยวิธี เลเซอร์ และการทำทรีทเม้น สามารถรักษาได้ แต่ควรศึกษาข้อมูลดีๆ และคอยหมั่นปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำ แต่หากอยากลองรักษาด้วยครีมรักษาฝ้า ก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเวชสำอาง อย่าง ชุดผลิตภัณฑ์รักษาฝ้า Herb & Her มีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติที่ช่วยยับยั้งสารเมลานิน ไม่มีสารเคมีอันตรายเจือปน ที่จะช่วยให้ฝ้า กะ จุดด่างดำต่างๆ ค่อยๆจางลง อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่เห็นผลแน่นอนค่ะ 

 

 

 

เขียนความคิดเห็น...