อันตรายจากครีมแก้ฝ้า ที่ไม่ได้มาตรฐาน

21/08/2015 0 Comment(s) บทความเกี่ยวกับฝ้า,

อันตรายจากครีมแก้ฝ้า ที่ไม่ได้มาตรฐาน

ในปัจจุบันมีครีมแก้ฝ้ามากมายหลายหลายสรรพคุณ หลายหลายส่วนผสม ที่โฆษณาไว้ว่าสามารถช่วยแก้ไขรอยฝ้า กระบนใบหน้า ให้ผิวหน้าของคุณขาวใสได้อย่างเห็นผล ภายใน 4-5 วันเท่านั้น! สงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า ทำไม? ครีมเหล่านี้ถึงทำให้ขาวไวรอยฝ้าจางลงได้รวดเร็วขนาดนี้..

 

 

ครีมแก้ฝ้าที่เห็นผลจริงขาวไวจนน่าตกใจ!

 

     ครีมแก้ฝ้าทั่วไป ที่บอกว่าหายแน่เห็นผลชัวร์ ใน 3 วัน 7 วัน! เป็นครีมที่มีความเสี่ยงสูงต่อผิวหน้าของคุณ เพราะครีมแก้ฝ้าเหล่านี้ใส่สารไฮโดรคิวโนน(Hydroquinone)ในปริมาณที่มาก เมื่อใช้แล้วฝ้าหายจริง ผิวขาวใส แต่เมื่อหยุดใช้ ปัญหาหน้าพังตามมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน อย่าง ฝ้าฝังลึก สิวเห่อ หน้าไหม้ บางรายเลวร้ายถึงขั้นหน้าพังพินาศแก้ไม่หาย ทำลายระบบประสาท และเป็นมะเร็งผิวหนังกันเลยก็มี

 

 

 

 

สารเคมีอันตรายที่พบในครีมแก้ฝ้า

 

     สารไฮโดรคิวโนน(Hydroquinone) สามารถทำให้เม็ดสีเมลานินจางลง เห็นผลได้ใน 2 สัปดาห์แรกที่ใช้ เป็นสารต้องห้ามและต้องจ่ายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเท่านั้น! ซึ่งในวงการแพทย์ผิวหนังยังยอมรับว่าสารไฮโดรคิวโนน เป็น Standard guide line ในการรักษาฝ้า ทำให้สารนี้จะมีอยู่ในครีมแก้ฝ้า แต่สามารถใส่ได้ไม่ควรเกิน 2% โดยจะเป็นครีมแก้ฝ้าที่ต้องทาตอนก่อนนอนเท่านั้น!! 

 

     เพราะด้วยความที่ไฮโดรคิวโนน(Hydroquinone)สารมารถทำให้ผิวขาวได้เร็ว ทำให้สารนี้เป็นที่นิยมกันมากในครีมตามเนตทั่วไปที่อวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถทำให้หน้าขาวใสได้เหมือนสาวเกาหลี โดยครีมที่มีไฮโดรคิวโนนปัจจุบันนี้ห้ามใส่ ถ้าใส่ก็จะเป็นครีมที่เรียกว่า ครีมเถื่อน ครีมใต้ดิน!! 

 

 

 

 

 

 

ถ้าสารไฮโดรคิวโนนต้องจ่ายโดยแพทย์ แล้วทำไมยังมีขายทั่วไปตามเนต?

 

 

 

     สารไฮโดรคิวโนน(Hydroquinone)เป็นสารเคมีควบคุม ผู้ที่ขออนุญาติก็สามารถนำเข้าได้ตามปกติ ปกติถ้าไฮโดรคิวโนน(Hydroquinone)เดี่ยวๆไม่มีขายทั่วไป แต่ถ้ารูปแบบ Hydroquinone Cream ถือเป็นยา ร้านขายยาทั่วไปขายได้มีหลายความแรง เช่น 1%HQ cream , 2%HQ cream ส่วนโรงงานที่รับจ้างผลิตครีมแก้ฝ้า ครีมหน้าขาว ก็มักแอบนำสารไฮโดรคิวโนนเข้ามาใส่ในครีมหน้าขาวตามเนตทำให้หน้าขาวไวได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง..

 

 

 

 

 

 

 

 

อันตรายที่มากับ สารไฮโดรคิวโนน (Hydroquinone)

 

     การใช้ไฮโดรควิโนนจะมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก หากหยุดใช้ฝ้าจะดำหนาขึ้นกว่าเดิม และเกิดเป็นฝ้าถาวร มีลักษณะเป็นเหมือนเม็ดงาดำเล็กๆอยู่ใต้ผิวหน้ารักษายากกว่าเดิม และรักษาไม่หายขาด ถ้าหากคุณใช้ไฮโดรควินโนน ร่วมกับกรดเรทิโนอิกหรือกรดวิตามินเอ นานกว่า6เดือน จะทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังเกิดเป็นฝ้าถาวรสีน้ำเงินอมดำฝังลึกกว่าเดิมแน่นอน! นอกจากรอยฝ้าฝังลึกแล้ว ผิวหน้าคุณยังสามารถพังได้มากกว่านี้อีก 

 

 

ควรใช้สารไฮโดรคิวโนน(Hydroquinone) ในความควบคุมของแพทย์

 

• ต้องใช้กับคนทีมีปัญหาจริงๆ คือเป็นฝ้า หรือมีรอยด่างดำจากปัญหาสิว แผลเป็นจากสิว 

• ต้องมีเปอร์เซ็นต์ของตัวยาที่แน่นอน ฝ้าจะใช้ความเข้มข้นสูงกว่า รอยดำจากสิว

• ควรใช้ในระยะเวลาที่จำกัด ไม่ควรใช้นานเกินไป และควรมีวิธีถอยยาโดยผู้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเหมาะสมกว่า

 

 

 

ข้อควรระวัง หากไม่อยากให้ฝ้าตามมา

 

     สิ่งที่ควรระวังและควรคำนึงถึงอยู่สม่ำเสมอคือ การออกแดด ซึ่งทราบกันดีอยู่แล้วว่า แสงแดดทำร้ายผิวหน้าให้เกิดฝ้าได้ หากไม่อยากให้ฝ้าตามรังควานใจ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานานๆ หากงานที่คุณทำอยู่เป็นประจำไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดได้ ควรทาครีมกันแดดค่า SPF50 PA+++ ก่อนออกจากบ้าน 15 นาที และควรทาซ้ำทุกๆ 80 นาที พร้อมทั้งใส่หมวก หรือกางร่ม จะเป็นการดีในการรักษาฝ้าบนผิวหน้าของคุณได้ในระดับที่ดีเลยทีเดียว

 

     ถ้าหากใบหน้าของคุณเกิดฝ้าแล้ว ควรเลือกใช้ครีมแก้ฝ้าที่ได้มาตราฐานปลอดภัยต่อสภาพผิวหน้าของคุณ แต่รีมแก้ฝ้าแบบไหนบ้างที่จะเข้ากับสภาพผิวและปลอดภัยต่อใบหน้าของคุณจริงๆล่ะ? 

 

 

 

เขียนความคิดเห็น...