วิธีดูแลผิวหน้า สำหรับคนผิวมัน

            ใครๆก็อยากดูดี เพอร์เฟ็ค กันทั้งนั้นแหละ ใช่ไหมคะ? ไม่ว่าจะเป็นทรงผม เสื้อผ้า รองเท้า ก็ต้องขอให้โดดเด่น น่ามอง รวมถึงหน้าตาก็ต้องดูดีด้วยเช่นกัน แต่หน้ามัน หมองคล้ำ เป็นสิว ใครๆที่พบเห็นก็คงจะเบือนหน้าหนี แต่จะทำอย่างไร ให้ปัญหาหน้ามันหมดไป เพื่อให้ได้มาซึ่งผิวที่ดูสุขภาพดี ไม่มันเยิ้มเงาวับเหมือนลูกชุบบ้างนะ? หากคุณอยากจะดูดีครบทุกองศา ต้องหันมาใส่ใจดูแลผิวหน้าของคุณเอง ด้วยขั้นตอนดีๆดังต่อไปนี้..

ผิวมันเกิดจากอะไร ใครก็ได้บอกที ? 

            ผิวหน้ามันมีสาเหตุมาจากการที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินปกติ โดยต่อมไขมันบนใบหน้าจะมีมากในช่วง T-Zone โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณ จมูก จะมีขนาดใหญ่และทำงานได้ดีกว่าต่อมไขมันบริเวณอื่น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมบริเวณจมูกมักจะมีความมันมากกว่าปกติ

          ผิวมันเกิดจากการที่ต่อมไขมันผลิตซีบั่มมากเกินไป การทำงานของต่อมไขมันนี้ควบคุมโดยฮอร์โมนแอนโดรเจน หรือฮอร์โมนเพศชายนั่นเอง ผิวลักษณะนี้จะสังเกตได้โดยผิวจะเป็นมันเงา ผิวดูหนา และแน่น รูขุมขนกว้าง ซึ่งเกิดจากไขมันที่ขังอยู่ในรูขุมขน เมื่อรูขุมขนกว้างกว่าปกติก็จะทำให้ผิวสูญเสียน้ำใต้ผิวได้มากขึ้น ผิวมันนั้นออกจะมองดูแล้วไม่ค่อยสะอาด บางครั้งบางคราวก็อาจเกิดสิวขึ้นได้บริเวณคางหรือหน้าผาก เมื่อสัมผัสดูจะรู้สึกว่าผิวมันและเหนียว

          โดยสาเหตุหลักๆ แล้วผิวมันจะมาจากกรรมพันธุ์เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น อารมณ์ ความเครียด อากาศเปลี่ยนแปลง ความร้อน ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง การสัมผัส การใช้สกินแคร์ที่มากเกินความจำเป็นหรือใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิว รวมไปถึงการใช้ยาบางชนิดก็มีส่วนทำให้ผิวของเรามันมากขึ้นเช่นกัน

ขั้นตอนดูแลผิวหน้า สำหรับคนหน้ามัน

1. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว คนที่มีผิวมันควรหลีกเลี่ยงการใช้โฟมล้างหน้าที่มีค่า pH ที่แรงเกินไป มีน้ำมันหอมระเหยมากเกินไป ควรตรวจสอบส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้บนใบหน้า ว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆมีกรดซาลิไซลิก และกรดไกลโคลิก หรือไม่ ถ้ามีแล้วล่ะก็ กรดเหล่านี้จะช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้ แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่เช่นนั้นผิวหน้าของคุณจะแห้งตึง และลอกเป็นขุยๆได้ ดังนั้นเวลาจะหยิบผลิตภัณฑ์ล้างหน้ายี่ห้อใดก็ตาม ควรเลือกดูที่ค่า pH ประมาณ 4 จะหมาะกับผิวหน้า และเลือกที่เป็นสูตร วิตามิน อี  จะช่วยให้หน้าคงความชุ่มชื้นได้ด้วยค่ะ

** เพิ่มเติม : กรดซาลิไซลิก (Beta Hydroxy Acid / BHA) คือ ช่วยบำบัดผิวมันโดยการเปิดรูขุมขนเพื่อชะล้างความมันและแบคทีเรีย

                  กรดไกลโคลิก (AHA) คือ กรดที่ช่วยลดความมัน และฟื้นฟูผิว

2. เลือกใช้ครีมบำรุงต่างๆที่เป็น Oil-Free หรือ Oil Control หากบนครีมบำรุงนั้น มีคำเหล่านี้อยู่ ให้ทราบไว้ได้เลยว่าเหมาะสำหรับผิวมัน ใช้แล้วหน้าไม่มันเยิ้ม ช่วยลดการอุดตันบนผิวหน้า ลดการเกิดสิวที่เกิดจากความมันส่วนเกินบนใบหน้า

** เพิ่มเติม : Oil-Free คือ มีส่วนผสมที่เป็นน้ำมันน้อย หรือไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเลย

                  Oil control ช่วยควบคุมความมันเพียงแค่ชั่วคราว ถ้าหยุดใช้ หน้ามันเหมือนเดิม

3. สครับผิวลดผิวมัน อุปกรณ์ที่ต้องใช้ คือ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ + มะนาว 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ = ผสมให้เข้ากัน นำมาสครับผิว นวดวนเบา บริเวณ T-zone เป็นหลัก เพราะบริเวณ T-zone จะมีนำ้มันผลิตออกมามาก หลังจากนวดสครับสักพัก น้ำตาลจะเริ่มละลาย พักทิ้งไว้อีก 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น และใช้น้ำเย็นจัดล้างอีกครั้ง เพื่อกระชับรูขุมขนค่ะ (ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง)

 ** เพิ่มเติม : น้ำตาล มี กรดไกลโคลิค ซึ่งเป็นหนึ่งใน AHA ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า ให้ผิวกระจ่างใส

                   มะนาวมี AHA หรือ กรดผลไม้ (fruity acid) เป็นกรดอ่อนๆ ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำให้หลุดออก ลดความมันบนใบหน้า กระชับรูขุมขน

                   น้ำผึ้ง จะช่วยลดความมันบนใบหน้า ทำให้รูขุมขนเล็กลง หน้าเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น

4. พอกหน้าลดผิวมันด้วยว่านหางจรเข้ เพียงนำว่านหางจรเข้มาปลอกเปลือกออก ลางน้ำให้ยางเมือกสีเขียวๆหลุดออก จากนั้นนำมาสับให้ละเอียด นำไปเเช่เย็นสักครู่ แล้วนำมาพอหน้าทิ้งไว้ 15 - 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เท่านี้หน้าก็หายมัน แถมผิวยังขาวใส ชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน สบายผิวด้วยค่ะ

 ** เพิ่มเติม : ว่านหางจรเข้ นอกจากจะมีสรรพคุณช่วยลดความมันบนใบหน้าแล้ว ยังช่วยลดอาการไหม้แดด ลดการติดเชื้อ สลายสารพิษของเชื้อโรค กระตุ้นให้เซลล์ผิวทำงานดีขึ้น ทำให้ริ้วรอย รอยด่างดำ รอยแผลเป็น รวมไปถึงหลุมสิวบนใบหน้าตื้นขึ้นและหายรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

5. ซับหน้าบ่อยๆ ผิวมันไม่หายแน่ เพราะการใช้กระดาษซับหน้ามันบ่อยๆ เป็นการเพิ่มน้ำมันบนใบหน้า เวลาที่หน้าถูกซับความมัน น้ำมันใหม่ก็จะมาแทนที่ของเดิมที่ถูกซบทิ้งไป บวกเพิ่มกับน้ำมันใหม่ที่ต้องผลิตขึ้นมาอีกด้วย แถมการซับหน้ามันบ่อยๆจะทำให้รูขุมขนกว้างด้วยค่ะ

6. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ ไม่ใช่ดื่มพรวดๆทีเดียว 7-8 แก้วนะคะ คือต้องดื่มแบบทีละน้อย จิบๆไปเรื่อยๆจนได้วันละประมาณ 8-10 แก้ว การดื่มน้ำนี้จะช่วยลดผิวมันได้ เพราะน้ำจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรก ทำให้ผิวชุ่มชื้น ขึ้นด้วยค่ะ

7. ทานอาหารที่มีประโยชน์ คนที่ผิวมันควรเลือกรับประทานอาหรจำพวก วิตามินบี 2 อย่าง ถั่วต่างๆ ธัญพืชไม่ขัดสี และ วิตามินเอ อย่าง แครอท ผักโขม แคนตาลูป จะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ดี หลีกเลี่ยงของทอด น้ำตาล จั๊งค์ฟู๊ด ก็จะดีมากเลยค่ะ

                เอาล่ะค่ะ ก็จบไปแล้วสำหรับ "วิธีดูแลผิวหน้า สำหรับคนผิวมัน" อย่าลืมว่าขั้นตอนการดูแลผิว สำหรับผิวมัน อย่างแรกที่ควรใส่ใจ คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ที่ต้องมีค่าสมดุลย์กับผิวหน้า เพื่อไม่ให้ผิวหน้าระคายเคือง แห้งตึง หรือมันจนเกินไป และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เราแนะนำก็คือ สบู่วิตามินอี รักษาสิวฝ้า (Super Herb E) ที่ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่าล้ำลึก พร้อมช่วยฟื้นฟูผิวด้วยวิตามินอี เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้หน้าไม่แห้งตึง หรือมันจนเกินไปด้วยค่ะ :)