รักษาฝ้าให้ถูกวิธี เพื่อรอยฝ้าที่จางลงอย่างได้ผล!

02/02/2016 0 Comment(s) บทความเกี่ยวกับฝ้า,

"ทำไมใช้ชุดบำรุงรักษาฝ้าเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ช่างต่างกัน?"

"ทำไมรอยฝ้าของเราไม่ยอมจางลงสักที?"

 

ทราบหรือไม่.. นอกจากการรักษาฝ้ายังขึ้นอยู่กับสภาพผิวแล้ว ยังขึ้นอยู่กับวิธีการบำรุงผิวหน้าอีกด้วย การบำรุงผิวแบบถูกวิธี จึงจะช่วยรักษาฝ้าได้อย่างเห็นผลชัดเจนดียิ่งขึ้น

 

 

ขั้นตอนที่ 1 : ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะใช้ได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อคุณมีผิวชุ่มชื้นหลังล้างหน้า เพราะเมื่อผิวชุ่มชื้นก็จะมีลักษณะคล้ายฟองน้ำทำให้ผิวหน้าดูดซับสารบำรุงในผลิตภัณฑ์ได้ดี

 

ทำความสะอาดใบหน้า เพียงวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น โดยเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าด้วยสบู่ที่มี Vitamin E หรือครีมโฟมที่มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้าพร้อมให้ความชุ่มชื้น ด้วยค่า pH ที่พอเหมาะกับสภาพผิว

 

 เพื่อการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก สามารถใช้*น้ำอุ่นในอุณหภูมิ 37 องศา พออุ่นๆเพื่อเปิดรูขุมขนให้ทำการชำระสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด และอย่าลืมกระชับผิวหน้าด้วยน้ำเย็นจัดทันที เพื่อผิวหน้าเด้ง ชุ่มชื้น

 

*ข้อควรระวัง - ไม่ควรทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำร้อน หรือน้ำอุ่นจัดๆ เพราะจะเร่งให้เกิดริ้วรอย รูขุมขนกว้าง และผิวหน้าแห้งลอกได้

 

 

ขั้นตอนที่ 2 : ใช้ Toner ปรับสภาพผิวเพื่อรับการบำรุง

Toner จะช่วยปรับค่า pH ของผิวหน้าให้คงที่ ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป เป็นการทำความสะอาดใบหน้าครั้งสุดท้าย ก่อนรับการบำรุงงผิวอย่างเต็มที่

 

 เลือกใช้โทนเนอร์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า โดยไม่มีสารระคายเคืองผิวอย่าง แอลกอฮอล น้ำหอม และสารกันเสีย

 

 ใช้สำลีชุบ Toner เช็ดหน้าอย่างเบามือ โดยใช้นิ้วกลางและใช้นิ้วนางกับนิ้วชี้หนีบแผ่นสำลีไว้ไม่ให้หลุด จากนั้นลูบไล้จากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบนเพื่อขจัดสิ่งสกปรกตกค้าง

 

 

 

"ตัวช่วยลดรอยฝ้าที่ดี คือ.. ควรหมั่นดื่มน้ำสะอาด ออกกำลังกาย ทานอาหารมีประโยชน์ และอย่าเครียดมาก"

 

 

 

ขั้นตอนที่ 3 : ฟื้นฟูผิวจากรอยฝ้าด้วย Serum

การใช้ Serum เปรียบเสมือนการเติมสารอาหารจำเป็นให้แก่ผิว จะต้องซึบซาบไวเพื่อให้ผิวหน้ารับสารบำรุงได้อย่างเต็มที่ จึงช่วยให้รอยฝ้าค่อยๆจางลงอย่างอ่อนโยนนั่นเอง

 

 โดยเซรั่มที่ดีต้องมีสารสกัดจาก แก่นมะหาด, VitaminC และสาร Anti-Oxidant เพื่อช่วยลดรอยดำจากฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 หยดเซรั่มที่ปลายนิ้ว ตบเบาๆทั่วใบหน้า เน้นตามรอยฝ้าที่คุณมี จากนั้นนวดใบหน้าเบาๆ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซรั่ม

 

 

ขั้นตอนที่ 4 : ครีมรักษาฝ้า ช่วยบำรุงผิวลดเลือนฝ้า

ครีมรักษาฝ้า จะเป็นครีมที่มีสารสกัดที่ช่วยยับยั้งรอยดำเฉพาะจุด โดยครีมรักษาฝ้าที่ดี ไม่ควรมีสารเคมีลดเมลานินอย่าง ไฮโรควิโนน สารปรอท เพราะจะทำให้หน้าบาง ฝ้าฝังลึกกว่าเดิม

 

 นวดเนื้อครีมที่รอยฝ้าเบาๆ จากนั้นทาครีมให้ทั่วใบหน้า พร้อมตบเบาๆ เพื่อกระตุ้นเซลล์ผิว ทำให้เนื้อครีมมีประสิทธิภาพในการทำงานลดรอยฝ้าได้ดี

 

 เลือกครีมที่มีสารสกัดจาก หัวไชเท้า หรือ รากปอสา จะช่วยลดการสร้างเมลานิน และรอยฝ้าได้ เมื่อหยุดใช้ไม่ทำให้ฝ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งดีกว่าครีมทาฝ้าที่มีเคมีทำร้ายผิวหน้าภายหลัง

 

 

ขั้นตอนที่ 5 : ทาครีมกันแดด ปกป้องผิวจาก UV

ครีมกันแดด จะช่วยปกป้องผิวหน้าของคุณจากรังสี UVA/UVB เพื่อไม่ให้รังสีเหล่านี้ทำร้ายผิวหน้าโดยตรง จึงสามารช่วยยับยั้งการเกิดรอยฝ้า และป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าเพิ่มมากขึ้น

 

 ใช้ครีมกันแดดในขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิว โดยทาครีมกันแดดขนาดเท่ามุกทั่วใบหน้า ก่อนออกจากบ้าน 15 นาที

 

 ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ เพื่อประสิทธิภาพในการปกป้องรังสี UV ที่ดีขึ้น และทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หากออกแดดจัดทั้งวัน

 

 ต้องใช้ครีมกันแดดทุกวัน ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก เพราะรังสียูวีสามารถผ่านเมฆ และลงมือทำร้ายผิวของคุณได้แม้วันที่ไม่มีแสงแดด

 

 

เพียงรักษาฝ้าให้ถูกต้อง ด้วยวิธีการใช้ชุดบำรุงผิวง่ายๆ 5 ขั้นตอน ก็จะช่วยให้การรักษาฝ้าเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรหมั่นดื่มน้ำสะอาด ออกกำลังกาย ทานอาหารมีประโยชน์ และอย่าเครียดมาก เท่านี้รอยฝ้าก็จะค่อยๆจางลงได้อย่างดีเลยค่ะ

 

เขียนความคิดเห็น...