มาเปลี่ยนผิวบอบบางจากการรักษาฝ้า ให้แข็งแรงขึ้นกันเถอะ

11/09/2015 0 Comment(s)

  

มาเปลี่ยนผิวบอบบางจากการรักษาฝ้า ให้แข็งแรงขึ้นกันเถอะ!

ผิวหน้าที่ถูกครีมรักษาฝ้าที่มีเคมีทำร้ายผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าบอบบางลง ไวต่อแสงแดด และเกิดอาการแสบ แดง ทั่วใบหน้า อยากลองหาวิธีที่ทำให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น ควรเริ่มดูแลผิวหน้าแบบไหนดี

 

 

ผิวบอบบาง เป็นอย่างไร?

 

ผิวบอบบาง / ผิวแพ้ง่าย

     เป็นผิวที่มีอาการแพ้ง่ายไปหมดทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นครีมทาผิว แพ้เครื่องสำอาง แสงแดด อากาศร้อน อากาศหน้า ฝุ่น ควัน เมื่อเกิดอาการแพ้ ผิวหน้าก็จะมีอาการแสบแดง อักเสบได้

 

ขั้นตอนการรักษาเบื้องต้น

     - เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ครีมบำรุงผิว สูตรอ่อนโยนที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า ที่ไม่มีสารเคมีอย่าง น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน

 

     - สารสกัดที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และอ่อนโยนต่อผิวหน้า ได้แก่ ดอกคาโมไมล์, azulene, bisabolol, Allantoin, ลาเวนเดอร์, การบูรคาลาไมน์, โรสแมรี่, โหระพา, ว่านหางจระเข้, น้ำมันมะพร้าว

 

 

     เพิ่มเติม - ก่อนเลือกซื้อเครื่องสำอาง โดยเฉพาะสำหรับผิวที่แพ้ง่าย ควรทดลองผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก่อนด้วยการทาลงบนบริเวณแขนและสังเกตอาการเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

 

 

ขั้นตอนที่ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น

 

ทานอาหารที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น

     เลือกรับประทานอาหารที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น วิตามินเอ ซี ดี และ อี ในผัก ผลไม้อย่าง สตรอเบอรี่, กล้วย, ส้ม และในน้ำมันในพืช เนื้อปลา สามารถช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี แข็งแรงขึ้นได้

 

 

ดื่มน้ำสะอาด

   เพียงดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น พร้อมระบายสารพิษสิ่งสกปรกในร่างกาย ป้องกันการเกิดรอยฝ้า สิว และริ้วรอยได้

 

 

ป้องกันแสงแดด

     แม้ในวันที่เมฆครึ้ม ผิวหน้าของเราก็ยังคงต้องเจอกับรังสียูวี ดังนั้นการหมั่นทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญ และควรหลีกเลี่ยงการออกแดดระหว่างเวลา 11.00 - 15.00 น. 

 

     เพราะแสงแดด จะทำให้น้ำในชั้นผิวระเหยออกไป ทำให้ผิวเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองเพิ่มมากขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแดดจ้า และควรปกป้องผิวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดต่างๆที่มีค่า SPF45 ขึ้นไป พร้อม  PA+++ เป็นประจำทุกวัน

 

 

เลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยน

     เครื่องสำอางที่มีคำว่า Hypoallergenic, Dermatological Test, Chemical Free, Paraben Free หรืออะไรก็ตามทีที่ เน้นว่ามีความปลอดภัยในการผลิต น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่สร้างความมั่นใจได้ระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ ก็ควรทดสอบก่อนซื้อไม่ต่างกัน

 

 

ทำความสะอาดผิวเพียงวันละ 2 ครั้ง

     การทำความสะอาดผิวมากเกินไป หรือการใช้สบู่ที่มีความกระด้างมากเกินไป จะทำลายชั้นผิวที่ปกป้องการสูญเสียของน้ำมันในชั้นผิว จึงไม่ควรขัดผิวบ่อยเกินสัปดาห์ละครั้งและไม่ควรใช้แปรงขัดถูตัวแรงเกินไป เพราะทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลงและง่ายต่อการถูกทำร้ายจากมลภาวะภายนอก

 

 

พักผ่อนให้เพียงพอ

     การพักผ่อน เป็นการดูแลผิวที่ดีที่สุด ควรนอนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง ไม่ควรเข้านอนเกิน 4 ทุ่ม เพราะช่วงเวลานี้ร่างกายของเราจะ หลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า Melatonin ออกมา ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวในเรื่องไม่ก่อเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง และเเข็งเเรงขึ้น เพราะมีภูมิต้านทานมากขึ้น

 

 

หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า

     การแต่งหน้า เป็นการเพิ่มสารเคมีให้แก่ผิวหน้า  ทำให้ผิวอ่อนแอ หรือบอบบาง และเกิดฝ้า สิว ได้ง่ายขึ้น การพักเครื่องสำอางบ้าง จะช่วยให้ผิวคุณได้หายใจมากขึ้น ลดการอุดตัว และช่วยให้ผิวคุณรับสารอาหารจากครีมบำรุงได้ดีมายิ่งขึ้น รวมถึงลดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี

 

 

มาส์กผิว ให้ผิวเเข็งแรง

    สูตรมาส์กผิวจากธรรมชาติมีมากมาย ที่ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวให้เเข็งแรงขึ้นได้

     • สูตรน้ำผึ้งบำรุงผิว • 

      น้ำผึ้ง สามารถนำมาบำรุงผิวได้สำหรับทุกสภาพผิว และจะดีที่สุดหากสามารถใช้น้ำผึ้งแท้ 100% หรือน้ำผึ้งออร์แกนิก วิธีใช้ก็เพียงทาน้ำผึ้งลงไปให้เคลือบทั่วผิวหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที ให้น้ำผึ้งได้ซึมลงสู่ผิว จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิห้อง ตัวน้ำผึ้งสามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรียได้อ่อน ๆ จึงช่วยบรรเทาอาการอักเสบของผิวที่เป็นสิว และสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี

 

     • สูตรแตงกวาบำรุงผิว • 

     แตงกวา ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิวจากอาการอักเสบ แสบแดง จากแสงแดดได้เป็นอย่างดี ใช้แตงกวาฝาน หรือปั่นเย็น ๆ นำมาพอกหน้าทิ้งไว้จนแห้ง หรือสักประมาน 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น เท่านี้ผิวหน้าของคุณก็ชุ่มชื้น สบายผิว แถมยังช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส ลดรอยดำต่างๆได้ดี

 

     • สูตรโยเกิร์ตบำรุงผิว • 

     โยเกิร์ต มีกดรแลคติกที่ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส แถมยังช่วยบรรเทาอาการไหม้ แสบแดงจากแสงแดดได้ดีเช่นกัน เพียงนำโยเกิร์ตแช่เย็นมาพอกหน้า 10-15 นาที ล้างออกให้สะอาด เท่านี้ผิวหน้าก็จะชุ่มชื้น กระจ่างใส เนียนนุ่ม สบายผิว แถมยังช่วยลดรอยดำคล้พจากฝ้า สิว ได้ดี เมื่อทำเป็นประจำทุกวัน

 

 

ปรึกษาแพทย์

     หากใบหน้าของคุณยังมีอาการแพ้ บอบบาง ไม่หายสักที คุณควรไปพบแพทย์ เพื่อปรึกษา และหาทางแก้ไขปัญหาผิวบอบบางเพื่อรับยา หรือครีมบำรุงผิว โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านผิวหนัง

 

 

เพียงคุณเริ่มปฏิบัติตามขั้นตอนที่เราแนะนำไปดังที่กล่าวมา ผิวหน้าที่แสนจะบอบบางของคุณก็จะค่อยๆแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วล่ะค่ะ :)

เขียนความคิดเห็น...