ครีมรักษาฝ้า เลือกอย่างไร ให้ปลอดภัยกับผิวสวย

05/07/2015 0 Comment(s) บทความเกี่ยวกับฝ้า,

 

ครีมรักษาฝ้า เลือกอย่างไร ให้ปลอดภัยกับผิวสวย

เชื่อว่าหลายๆคนที่มีปัญหาฝ้า กระ กวนใจ อาจจะกำลังมองหาครีมรักษาฝ้ากันอยู่ใช่ไหมล่ะคะ? ก่อนที่จะเลือกครีมรักษาฝ้ามาใช้ ควรพิจารณาถึงส่วนประกอบสำคัญ ในครีมรักษาฝ้า ควรเป็นส่วนผสมที่มีการสกัดจากพืชพรรณสมุนไพรจากธรรมชาติ จึงจะไว้วางใจได้ว่าปลอดภัยไร้สารเคมีตกค้าง ไม่เป็นอันตรายต่อผิวสวยของคุณ

 

 

 

 

ฝ้า กระ คืออะไร

 

     ฝ้า กระ คือ รอยดำในชั้นผิวหนัง ซึ่งเกิดจากเซลล์ที่สร้างเม็ดสี ทำงานมากผิดปกติ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน (เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน ในเพศหญิง อาจทำให้เกิดฝ้า กระได้ระหว่างตั้งครรภ์ หรือผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิด อาจมีฝ้าหรือกระได้), ความเครียด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ แสงอุลตร้าไวโอเลต (Ultraviolet) ในแสงแดด ส่วนรอยดำบนผิวหนังอาจเกิดจาก รอยสิว การอักเสบหรือการระคายเคืองบนใบหน้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วิธีเลือกครีมรักษาฝ้าให้ปลอดภัย

 

 

     เลือกครีมรักษาฝ้า ที่ไม่มีสารไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) 

 

     สารไฮโดรควิโนน สามารถยับยั้ง เมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้อย่างชะงัก สามารถทำให้ฝ้าจางหายได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งสารส่วนใหญ่ที่นิยมใช้คือ สาร Hydroquinone คือ สารเคมีที่ช่วยยับยังการสร้างเมลานินให้ลดลง ต้องใช้ปริมาณตามที่แพทย์กำหนดเท่านั้น สามารถใช้ได้แค่ 3 - 4% ก็เพียงพอแล้ว แต่ก็มีผู้ผลิตบางรายที่เห็นแก่ตัว นำสารเคมีที่ชื่อ Hydroquinone มาใช้ในปริมาณที่มากกว่าแพทย์กำหนด เพราะอยากให้ผู้บริโภคใช้แล้ว เห็นผลเร็วทันใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย.. ผลเสียที่จะตามมาก็คือ เมื่อหยุดใช้ ฝ้าจะกลับมาลึกขึ้น สีผิวไม่สม่ำเสมอ บางร้ายแพ้หนักๆผิวไหม้ เจอแสงแดดไม่ได้ มีสิวขึ้นมากมาย กลายเป็นคนผิวแพ้ง่ายจัดไปเลยก็มี

 

 

     เลือกครีมรักษาฝ้า ที่ไม่มีสารปรอทแอมโนเนีย (ammoniated mercury)

 

     สารปรอทแอมโมเนีย สามารถเข้าไปรบกวนเอนไซม์ไทโรซิเนส ทำให้ลดการสร้างเมลานิน หรือเม็ดสีผิวสีดำที่ทำให้เกิดฝ้า ทำให้หน้าขาวขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว สารชนิดนี้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังได้อย่างสบาย แต่พิษเฉียบพลันคือ สิวเห่อ หน้าบวมแดง คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย มีแผลในปาก ไตวาย ถ่ายเป็นเลือด ส่วนพิษเรื้อรังคือ ผิวด่าง-ดำ ทำให้สมอง ตับ และไตผิดปกติ เกิดภาวะเลือดจาง เลือดออกง่าย เป็นอันตรายมาก ถ้าครีมรักษาฝ้าตัวไหนที่โฆษณาเกินจริงว่าขาวเร็ว ขาวไว ฝ้าจายภายใน 3 วัน รู้ไม่เลยว่ามีสารเคมีอันตรายแน่นอน!

 

 

     เลือกครีมรักษาฝ้า ที่มีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ

 

     การเลือกใช้ครีมรักษาฝ้าที่มาจากสมุนไพร มีโอกาสหรือว่าความเสี่ยงในการแพ้ได้น้อยมาก มากถึงมากที่สุด เพราะสมุนไพรที่นำมาเป็นสมุนไพรรักษาฝ้านั้น นอกจากจะช่วยรักษาฝ้าแล้วยังช่วยบำรุงให้ผิวหน้าเราแข็งแรงอีกด้วย บางคนใช้ครีมรักษาฝ้าที่สกัดจากสารเคมี สิ่งหนึ่งที่ได้รับกลับมาหน้าอาจจะหายฝ้าได้อย่างรวดเร็วกว่า แต่หลังจากฝ้าหายหน้ากลับบางมาก ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด และฝ้าจะขึ้นตามมาในไม่ช้า ปัญหาหน้าบางทีเกิดจากการเลือกครีมรักษาฝ้าที่ทำจากสารเคมีคือมีผลข้างเคียง และเสี่ยงต่อการเป็นฝ้ามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

 

     เลือกครีมรักษาฝ้าที่มีตรารับรองจาก อย.

 

     ครีมรักษาฝ้าที่ปลอดภัย ควรมี อย.รับรองมาตราฐาน โดยผลิตภัณฑ์สุขภาพเหล่านั้นต้องมีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัย มีการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคที่ถูกต้องด้วยข้อมูลวิชาการที่มีหลักฐาน เชื่อถือได้และมีความเหมาะสม เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปลอดภัยและสมประโยชน์ 

 

 

 

 

 

วิธีรักษาฝ้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติ

 

 

สมุนไพรรักษาฝ้า สูตรว่านหางจรเข้

 

ขั้นตอน : นำใบว่านหางจระเข้ที่แก่ที่สุด ปลอกเปลือก ล้างยางให้สะอาด ฝานเป็นแผ่นบางๆ พอกหน้า 15 นาที แล้วล้างออก ทำได้วันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ดีขึ้น เมื่อทำเป็นประจำทุกวัน

สรรพคุณ : สาร polysaccharides ในว่านหางจระเข้ สามารถช่วยลดรอยดำ และเรียกคืนสีเดิมของผิวของคุณได้ นอกจากนี้ยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเพิ่มการฟื้นฟูของเซลล์ผิวใหม่ ช่วยเติมน้ำให้แก่ผิว พร้อมทั้งช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนจากแสงแดดได้ดีอีกด้วย 

 

 

 

 

 

 

 

สมุนไพรรักษาฝ้า สูตรแตงกวา

 

ขั้นตอน : ปั่นแตงกวาให้ละเอียด นำมาพอกหน้าให้ทั่ว เว้นตา ปาก ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก สามารถทำได้ทุกวันที่ต้องการ

สรรพคุณ : แตงกวา จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่ารอยดำบนใบหน้า ให้กลับมาสว่าง กระจ่างใสขึ้น พร้อมคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า บรรเทาอาการแสบร้อนได้เป็นอย่างดี ลดริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าได้ด้วย

 

 

 

 

 

 

 

สมุนไพรรักษาฝ้า สูตรใบบัวบก

 

ขั้นตอน : ใบบัวบก 1 กำมือ ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใสลงในเครื่องปั่น พร้อมกับเติมน้ำสะอาด 2-3 ช้อนโต๊ะ หรืออาจจะเติมน้ำผึ้งเพิ่มอีก 1 ช้อนชาด้วยก็ได้ ปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน พอกทุกวันก่อนเข้านอน 15-20 นาที ทำได้ทุกวัน หรือสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

สรรพคุณ : ใบบัวบกมีสารอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยในการไหลเวียนของเลือด รวมไปถึงช่วยรักษาฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่ให้แข็งแรงขึ้น ให้ผิวกลับมามีสภาพที่นวลเนียนเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ สดใส ไร้รอยแผลเป็นและจุดดำ ฝ้า กระ จางลง

 

 

 

 

 

 

 

สมุนไพรรักษาฝ้า สูตรหัวไชเท้า

 

ขั้นตอน : นำหัวไชเท้าบด ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น อย่าลืมกระชับผิวด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือวันเว้นวัน (แล้วแต่สภาพหน้าของแต่ละคนว่ารับได้แค่ไหน ส่วนคนที่มีผิวแพ้ง่ายไม่ควรใช้สูตรนี้)

สรรพคุณ : หัวไชเท้ายังมีสรรพคุณช่วยลดริ้วรอยต่างๆ ทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้น ช่วยลดฝ้าทำให้ฝ้าดูจางลงได้มาก (คนที่ใช้สูตรหัวไชเท้านี้อาจมีอาการแสบเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ อาการแสบจะบรรเทาลง ถ้าทำเป็นประจำ จะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น)

 

 

 

 

 

 

 

สมุนไพรรักษาฝ้า สูตรมะขามเปียก

 

 

ขั้นตอน : มะขามผสมน้ำ กรองให้ข้น นำมาแต้มที่รอยฝ้า หรือพอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวอีกครั้งด้วยน้ำเย็น ทำอย่างนี้ทุกวัน

สรรพคุณ : มะขามเปียกมีกรด AHA จากธรรมชาติ ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ดำกร้านให้หลุดลอกได้เป็นอย่างดี รวมถึงรอยฝ้า กระ ก็จางลงได้เมื่อทำเป็นประจำ

 

 

 

 

 

 

 

     ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกครีมรักษาฝ้า ไม่ว่าจะมาจากสารเคมี หรือสมุนไพร สิ่งหนึ่งที่เราควรคำนึงถึงคือ อย. และ สธ. ของผลิตภัณฑ์ที่ควรมี เพื่อความปลอดภัยของผิวหน้าคุณ เพราะสมัยนี้ครีมที่บอกว่าจากสมุนไพรแท้ๆ ก็มีย้อมแมวออกมามากมาย โดยครีมเหล่านี้ก็จะแอบแฝงสารอันตรายที่กัดผิวให้ขาวอย่างรวดเร็ว อาจจะทำให้หน้าเราพังมากกว่าเดิมก็ได้ แต่หากไม่แน่ใจว่าครีมรักษาฝ้าสมุนไพรแบบไหนที่ช่วยรักษาฝ้าแบบปลอดภัยต่อผิวหน้าของคุณได้ เราขอเสนอ ครีมรักษาฝ้า Melablock Plus ที่มีสารสกัดจากต้นปอสา ที่มีฤทธิ์ยับยั้งสารเมลานินที่ทำให้เกิดฝ้าได้อย่างปลอด แต่อาจต้องใช้เวลาสักนิดนะคะ 

เขียนความคิดเห็น...