การรักษาฝ้าแบบผิดๆด้วยการใช้ “ครีมหน้าขาว” หรือ “ครีมลบฝ้า” ที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน อาจดีที่ทำให้ฝ้าจางไวในตอนแรก แต่เมื่อหยุดใช้ หน้าบางลง แพ้ง่าย ฝ้าฝังลึก! อาการเหล่านี้อาจทำให้ใครหลายๆคนท้อใจ อย่าเพิ่งหมดหวังกันเลยค่ะ เรามากู้หน้าพังด้วยวิธีรักษาฝ้าแบบถูกวิธีกันเถอะค่ะ :)
3 วิธี ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ลดรอยฝ้า!
วิธีที่ 1 : ฟื้นฟูผิวเบื้องต้น (หยุดใช้ครีมเถื่อน เพื่อฟื้นฟูผิว 2-3 อาทิตย์)
• ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด เช็ดทำความสะอาดผิวน้ำเกลือ ยังไม่จำเป็นต้องใช้โฟมล้างหน้าใดๆ
• งดการแต่งหน้า เพื่อให้ผิวของคุณได้พักฟื้นให้แข็งแรงก่อน ถึงจะเริ่มมาใช้ครีมได้
• อย่าจับ แคะ แกะ เกา ผิวหน้า เพราะผิวหน้ากำลังแพ้ง่าย และไวต่อเชื้อโรคมาก
• งดการมาร์คหน้า และสครับผิวก่อน เพราะการมาร์คหน้าและสครับ ด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะทำให้ผิวแห้งตึงกว่าเดิม และผิวจะเกิดสิวหนักกว่าเดิม
• พอกหน้าด้วยเจลว่านหางจระเข้ หรือจะใช้วุ้นว่านหางจระเข้ที่ล้างยางแล้ว ทำได้ทุกวัน เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น และแข็งแรงขึ้น
• อย่าเพิ่งใช้สูตรสมุนไพรที่มีกรด AHA ขัด หรือพอกผิวอย่าง มะขาม มะนาว หัวไชเท้า มะละกอ เพื่อลดอาการไวต่อแสงแดด เเละเลี่ยงอาการแพ้ แดง
วิธีที่ 2 : บำรุงผิวให้แข็งแรง (พ้นช่วงฟื้นฟูผิว อาทิตย์ที่ 3-4)
Step 1 – ใช้ “สบู่ Vitamin E” ทำความสะอาดใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน ที่ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้าน (ใช้เพียง 2 ครั้ง เช้า-เย็น)
Step 2 – ฟื้นฟูผิวด้วย “เซรั่มมะหาด 3 Plus” เป็นเซรั่มฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรง กระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้อิลาสตินผสานกันมากขึ้น ผิวจึงยืดหยุ่น แข็งแรง (ฟื้นฟูผิว เช้า-เย็น)
Step 3 – บำรุงผิวด้วย “ครีมทาฝ้า Melablock Plus” เพื่อช่วยลดเม็ดสีเมลานิน หรือรอยฝ้าอย่างอ่อนโยน พร้อมช่วยลดอาการระคายเคือง บางเบา ซึมง่าย ไม่แสบผิว (บำรุงผิว เช้า-เย็น)
Step 4 – ปกป้องผิวด้วย “ครีมกันแดด SPF50 PA+++” เพื่อช่วยป้องกันรังสี UVA/UVB ไม่ให้เกิดรอยฝ้าซ้ำซ้อน และช่วยลดการเกิดสีของฝ้า (ทาบำรุงแม้อยู่ในบ้าน หรืออยู่กลางแจ้ง)
วิธีที่ 3 : หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดฝ้า
• หลบแดด = โดยการทาครีมกันแดด ทุก 3-4 ชั่วโมง , สวมหมวกปีกกว้าง , สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด
• งดใช้ครีมที่ทำให้เกิดอาการแพ้ = โดยเลือกครีมที่ได้มาตราฐาน หรือครีมสูตรสมุนไพร(หากไม่มีอาการแพ้สมุนไพร) เพื่อลดรอยฝ้าอย่างอ่อนโยน
• ทำความสะอาดใบหน้า = เป็นสิ่งสำคัญ ควรล้างทำความสะอาดใบหน้าเช้า – ก่อนนอน เพื่อช่วยชะล้างแบคทีเรีย ฝุ่น มลภาวะ ที่ก่อให้เกิดฝ้าได้ดี
• แต่งหน้าให้น้อย = หากเป็นคนติดการแต่งหน้า ควรแต่งให้น้อยลง และเช็ดทำความสะอาดใบหน้าก่อนนอนให้เกลี้ยงเกลา
• พักผ่อนให้เพียงพอ = นอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบภายในทำงานดีขึ้น ลดการเกิดฝ้าได้ดี
• ทานอาหารมีประโยชน์ = ทานผัก ผลไม้ที่มีส่นประกอบของวิตามินซี วิตามินบี12 แร่ธาตุ และไฟเบอร์ เพื่อช่วยในการขับถ่าย และต่อต้านอนุมูลอิสระ
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ = ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือถ้าดื่มได้วันละ 2 ลิตร จะยิ่งดีต่อผิวพรรณ และบรรเทารอยฝ้าได้
• หลีกเลี่ยงความเครียด = พยายามอย่าเครียดมาก หรือตกอยู่ในภาวะตึงเครียด ก็ควรหาสิ่งที่จรรโลงใจ ด้วยการนั่งสมาธิ เดินเล่น หรือฟังเพลงเบาๆ สร้างบรรยากาศในห้องให้หอม อบอุ่น เพื่อช่วยลดอาการตึงเครียด
ด้วย 3 วิธีนี้ จะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าของคุณให้กลับมาแข็งแรง และช่วยบรรเทาให้รอยฝ้าค่อยๆจางลงได้ แล้วอย่าลืมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าที่อ่อนโยน และปลอดภัย ไร้สารเคมีทำร้ายผิว อย่าง ชุดรักษาฝ้า Herb&Her ด้วยนะคะ เมื่อผิวหน้าแข็งแรง ก็สามารถใช้สูตรสมุนไพรหลายหลายสูตรที่เราเคยแนะนำมาทำการรักษาฝ้าได้แล้วค่ะ “ฝ้า ปัญหาเล็กๆที่เราสามารถแก้ไขได้! อย่าท้อนะคะ สู้ๆ!”