10 สูตรธรรมชาติรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำอย่างเห็นผล!

ปัญหารอยฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่เกิดจากแสงแดด อายุที่มากขึ้น หรือจากรอยสิว เราสามารถแก้ไขได้ ด้วย 10 สูตรสมุนไพรธรรมชาติ ดังต่อไปนี้!

1. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์

- สรรพคุณ -

     แอปเปิ้ลไซเดอร์ มีกรดอะซิติก ช่วยในเรื่องการฟอกสีและความสว่างให้กับสีผิวที่คล้ำ ทำให้ผิวเรียบเนียน สดใสมากยิ่งขึ้น โดยกรดที่อยู่ในแอปเปิ้ลไซเดอร์นี้ จะสามารถช่วยลบรอยฝ้า กระ จุดด่างดำจากสิวได้ แม้กลิ่นจะฉุนสักเล็กน้อย

- ขั้นตอน -

     แอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน ล้างหน้าให้สะอาด ใช้สำลีชุบเช็ดใบหน้า หรือรอยฝ้า กระ จุดด่างดำ พอกทิ้งไว้ 30 แล้วล้างออกให้สะอาด

- แนะนำ –

     ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เวลาประมาน 6 สัปดาห์ด้วยกัน จึงจะเห็นผลัพธ์ที่แตกต่าง

2. ว่านหางจระเข้

- สรรพคุณ -

     ว่านหางจระเข้ มีการใช้เป็นพันๆปี สำหรับโรคผิวหนังต่างๆ ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติลดน้ำหนักต้านการอักเสบของผิว ลดอาการแสบร้อนจากแสงแดด แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส ชุ่มชื่น มีน้ำมีนวล ขจัดสิว และมีส่วนช่วยในการลดการเกิดเม็ดสีผิวเมลานิน จึงลบรอยดำจากฝ้า กระ จุดด่างดำจากสิวได้ดี

- ขั้นตอน -

     วุ้นว่านหางจระเข้ปั่น 2-3 ช้อนโต๊ะ + น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ล้างหน้าให้สะอาด พอกหน้า 20 นาที ล้างหน้าให้สะอาด

- แนะนำ –

     ทำสูตรนี้ทุกวัน เช้า-เย็น จะสังเกตุได้เลยว่ารอยดำฝ้า กระ จุดด่างดำ ค่อยๆจางลง

3. หัวไชเท้า

- สรรพคุณ -

     หัวไชเท้า มีส่วนประกอบของสารไกลโคไซ ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยในเรื่อยลดรอยดำอย่างฝ้า กระ จุดด่างดำได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการอักเสบ จากสิว ทำให้สิวยุบ และแห้งตัวไวขึ้น พร้อมกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยชำระล้างไขมันภายในรูขุมขน ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ให้ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น

- ขั้นตอน -

     น้ำหัวไชเท้าแช่เย็น 3 ช้อนโต๊ะ + ดินสองพอง 1 เม็ด + น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ผสมเป็นเนื้อครีม พอกหน้า 15-20 นาที ล้างออกให้สะอาด

- แนะนำ –

     หัวไชเท้าสดมีฤทธิ์แสบร้อน  หากนำหัวไชเท้ามาพอกสดๆอาจไม่เหมาะกับผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่ายแน่นอน แต่สำหรับใครที่ใช้ได้ก็จะเห็นผลชัดเจนเลยว่ารอยฝ้าจางลงได้จริง

4. ใบบัวบก

- สรรพคุณ -

     ใบบัวบก มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่ให้แข็งแรงขึ้น พร้อมทั้งช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนเลือด จึงช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ทำให้ปัญหาผิวหมองคล้ำที่เป็นรอยฝ้า กระ จุดด่างดๆต่างลดเลือนลงได้ดี พร้อมปรับสภาพผิวให้ผิวกลับมาเนียนเรียบ ลดเลือนริ้วรอยได้

- ขั้นตอน -

     ใบบัวบก 1 กำมือ + น้ำอุ่นหรือน้ำสะอาด 1 ถ้วย ปั่นให้เข้ากัน กรองน้ำ ใช้สำลีเช็ดหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ 15-20 นาที หรือพอกจนแห้ง ล้างออกให้สะอาด

- แนะนำ –

      ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือทำทุกวันที่ต้องการ เท่านี้ก็จะช่วยลดรอยฝ้าได้ดี

5. มะละกอ

- สรรพคุณ -

     มะละกอ มีเอนไซม์ปาเปน แคโรทีน วิตามินซี ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวได้ดี โดยเฉพาะรอยดำจากสิว รอยฝ้า รอยกระ ก็สามารถลดเลือนลงได้ แถมยังช่วยให้ผิวหน้านุ่มนิ่ม น่าสัมผัส นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสมานแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ 

- ขั้นตอน -

     มะละกอสุกบด 1/3 ลูก + น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา + น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน ล้างหน้าให้สะอาด นำมาพอกหน้า 20 นาที ล้างออกให้สะอาด

- แนะนำ –

     ควรทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ทำต่อเนื่องกันหลายเดือน เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่าง

6. มะนาว

- สรรพคุณ -

     มะนาว มีกรดซิดตริก ที่เหมือนสารฟอกสีผิวให้กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีกรด AHA และ วิตามินซี ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดลอยดำจากฝ้า กระ จุดด่างดำจากสิว พร้อมช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ ให้ขาวใสมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยลดความมัน ลดการเกิดสิว และกระชับรูขุมขนได้ดี

- ขั้นตอน -

     น้ำมะนาว 2 ลูก + น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน ล้างหน้าให้สะอาด พอกหน้า 15-20 นาที ล้างออกให้สะอาด 

- แนะนำ –

    สำหรับช่วงเวลาเช้า - บ่าย ไม่ควรออกแดดทันทีเมื่อพอกหน้าด้วยมะนาว เพราะมะนาวมีกรด AHA ทำให้ไวต่อแสงแดดได้ ควรทาครีมบำรุงและครีมกันแดดทันทีเมื่อพอกหน้าเสร็จ ทางที่ดีควรพอกหน้าช่วงเวลาตอนเย็น หรือก่อนจะนอน

7. หอมแดง

- สรรพคุณ -

     มีฤทธิ์ช่วยลดรอยฝ้า กระ จุดด่างดำจากสิว เพราะมีสารกำมะถัน วิตามินซี ที่ช่วยลดรอยดำ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ผลัดเซลล์ผิวหมอง ปรับสิวผิวบริเวณนั้นๆให้กระจ่างใส พร้อมลดอาการอักเสบจากสิวได้ดี 

- ขั้นตอน -

     ฝานหอมแดงบางๆ แปะที่รอยฝ้า 10 นาที ล้างออกให้สะอาด

- แนะนำ –

     หอมแดงมีกำมะถัน ทำให้แสบตา หรือแสบผิวได้ จึงควรฝาน แล้วแช่ให้เย็นก่อนใช้ เพื่อลดอาการแสบจากหอมแดง

8. มะขามเปียก

- สรรพคุณ -

     มะขามเปียก มี AHA และวิตามินซี ที่มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำ ลดการเกิดรอยดำฝ้า กระ ลดรอยสิว รวมถึงช่วยทำความสะอาดสิ่งอุดตันในรูขุมขน ลดความมัน และลดการเกิดสิวได้ดี

- ขั้นตอน -

     มะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ผสมให้เป็นเนื้อครีม ล้างหน้าให้สะอาด พอกหน้า 15-20 นาที ล้างให้สะอาด

- แนะนำ –

    สูตรนี้จะคล้ายๆมะนาว เพราะมี AHA จึงไม่เหมาะที่จะออกแดดเลยทันที หรือถ้าจำเป็นต้องออกแดด ควรทาครีมบำรุงที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน 15 นาที ด้วยค่ะ

9. ใบกระเพรา

- สรรพคุณ -

      ใบกระเพรา มี แคลเซียม และฟอสฟอรัส และวิตามินซี ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดรอยดำจากฝ้า กระ จุดด่างดำจากสิวได้

- ขั้นตอน -

     ใบกระเพราะแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำอุ่น 1 ถ้วย ผสมให้เข้ากัน แล้วใช้สำลีชุบน้ำทาบริเวณที่เป็นกระ ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วล้างออกให้สะอาด

- แนะนำ –

     ควรทำทุกวัน เช้า-เย็น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

10. ขมิ้น

- สรรพคุณ -

     ขมิ้น อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี แคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และเกลือแร่ต่างๆ ที่มีสรรพคุณทางยาที่รักษาอาการและโรคได้หลายชนิด โดยเฉพาะรักษาโรคเกี่ยวกับผิวหนังอย่าง สิว ฝ้า กระ กราก เกลื้อน และแผลต่างๆ

- ขั้นตอน -

     ผงขมิ้นชัน 1 ช้อนชา + น้ำมะนาวสด 1 ช้อนชา + นมสด 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน นำมาพอกหน้า หรือนวดจุดที่มีรอยดำ 15 นาที ขึ้นไป หรือทิ้งไว้จนแห้ง ล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวด้วยน้ำเย็น

- แนะนำ –

     สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวัน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ควรทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

หากใครที่คิดว่าไม่ค่อยมีเวลา ทำงานกลับมาบ้านก็มืดดึกดื่น ขี้เกียจผสมนู่นนี่ให้วุ่นวาย สามารถเลือกให้ชุดรักษาฝ้าของ Herb&Her ได้เช่นกัน เพราะชุดรักษาฝ้าชุดนี้มีสารสกัดจากสมุนไพรแท้ช่วยลดรอยฝ้า กระ ได้ดีเช่นกัน และยังใช้ได้แม้ผิวบอบบาง และแพ้ง่าย